เนื่องในโอกาสปีศักดิ์สิทธิ์เพื่อผู้ร่วมงานสมัชชาบิชอปสากล (Jubilee for Synodality’s Body) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24–29 ตุลาคม ค.ศ. 2025 ณ หอประชุมเปาโลที่ 6 นครรัฐวาติกัน สหพันธ์สภาพระสังฆราชแห่งเอเชีย (FABC) ได้จัดการประชุมกลุ่มย่อยก่อนการประชุมอย่างเป็นทางการ เพื่อเตรียมความพร้อมและแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดำเนิ
งานสมัชชาในบริบทของทวีปเอเชีย
ในการประชุมครั้งนี้ พระคาร์ดินัลฟิลิป เนรี เฟอร์ราว (Cardinal Filipe Neri Ferrão) ประธาน FABC ได้กล่าวข้อคิดสำคัญว่า การก้าวเดินไปด้วยกันของพระศาสนจักรเริ่มต้นจาก “จิตสำนึกในความเชื่อ” (Sensus fidei) ซึ่งเป็นพระพรที่ทุกคนได้รับผ่านศีลล้างบาป และเป็นพื้นฐานของการดำเนินชีวิตคริสตชนในความปรองดองร่วมกัน ตั้งแต่ระดับครอบครัว ชุมชนแห่งความเชื่อ สังฆมณฑล ประเทศ ทวีป และระดับสากล
พระองค์เน้นว่า การก้าวเดินไปด้วยกันจำเป็นต้องมี “การกลับใจแห่งการก้าวเดินไปด้วยกัน” (Synodal Conversion) ในทุกระดับของพระศาสนจักร ทั้งในวัด สังฆมณฑล องค์กรคาทอลิก และหน่วยงานต่าง ๆ โดยต้องอาศัยการอบรมและการเรียนรู้เรื่อง “ศิลปะแห่งการก้าวเดินไปด้วยกัน” เพื่อให้ทุกคนสามารถร่วมเดินไปในทิศทางที่พระจิตเจ้าทรงนำ ด้วยการรับฟังกันและกันอย่างเคารพ มีพื้นที่สำหรับทุกคน และไม่ทอดทิ้งผู้ใดไว้เบื้องหลัง
การก้าวเดินไปด้วยกันของพระศาสนจักรในเอเชียพระศาสนจักรในเอเชียมีประสบการณ์การก้าวเดินร่วมกันมาโดยตลอด ผ่านการประชุมและความร่วมมือในระดับทวีป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประชุม FABC50 Bangkok เมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 2022 ซึ่งได้มอบเอกสารสำคัญที่สะท้อนอัตลักษณ์ของการก้าวเดินไปด้วยกันในบริบทเอเชีย ได้แก่ การเสวนากับวัฒนธรรม การทำงานกับผู้ยากไร้ การเสริมสร้างศาสนาสัมพันธ์ และการตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี
นอกจากนี้ ยังมีการจัดงานชุมนุมด้านการแพร่ธรรมระดับทวีปเอเชีย (Asian Mission Congress) มาแล้วสองครั้ง ได้แก่
- ครั้งแรก ณ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 18–22 ตุลาคม ค.ศ. 2006
- ครั้งที่สอง กำลังจะจัดขึ้น ณ เมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 27–30 พฤศจิกายน ค.ศ. 2025
การประชุมกลุ่มย่อยในครั้งนี้จึงเป็นเวทีสำคัญในการแบ่งปันประสบการณ์แห่งความเชื่อ และการก้าวเดินไปด้วยกันในปีศักดิ์สิทธิ์แห่งความหวัง โดยมีเป้าหมายเพื่อแสวงหาหนทางใหม่ในการสร้างความหวังร่วมกัน และนำกลับไปเป็นพลังในการสร้างสรรค์พันธกิจในแต่ละพื้นที่ของพระศาสนจักร เปรียบเสมือนการนำเมล็ดพันธุ์แห่งความหวังไปเพาะปลูกในแผ่นดินของตนเอง เพื่อให้ผลิบานในพระคริสตเจ้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน
แหล่งที่มา : https://www.facebook.com/share/p/1CtGusx6kd/






