เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 2025 พระสันตะปาปาเลโอที่ 14 ทรงถวายพิธีบูชาขอบพระคุณ ณ มหาวิหารนักบุญเปโตร เนื่องในโอกาสวันอาทิตย์ที่ 3 เทศกาลเตรียมรับเสด็จ หรือ “Gaudete Sunday” ซึ่งคำว่า “Gaudete” หมายถึง “จงชื่นชมยินดี” เป็นการเตือนใจคริสตชนให้รอคอยพระคริสตเจ้าด้วยความหวังและความสุข
พิธีกรรมครั้งนี้มีความพิเศษ เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่พระสันตะปาปาทรงสวมอาภรณ์สีกุหลาบโอลด์โรส (old rose) ตามธรรมเนียมของวันอาทิตย์แห่งความชื่นชมยินดี ขณะที่พระสงฆ์ท่านอื่น ๆ ยังคงสวมอาภรณ์สีม่วง ซึ่งก็ถือว่าไม่ผิดตามข้อกำหนดของพิธีกรรม
สำหรับปีศักดิ์สิทธิ์แห่งความหวัง วันดังกล่าวยังถูกกำหนดให้เป็นปีศักดิ์สิทธิ์สำหรับนักโทษและผู้ดูแลเรือนจำ โดยพระสันตะปาปาฟรานซิสเคยเปิด “ประตูศักดิ์สิทธิ์” ที่เรือนจำ Rebibbia เพื่อเชิญชวนให้ทุกคน “ยึดเชือกแห่งความหวัง” และ “เปิดประตูหัวใจของเรา”
พระสันตะปาปาเลโอที่ 14 ได้เน้นย้ำถึงความยุติธรรมและการคืนดี โดยกล่าวว่า “ไม่มีมนุษย์คนใดถูกกำหนดด้วยการกระทำของตนเท่านั้น” ความยุติธรรมแท้จริงคือกระบวนการของการชดเชยและการคืนดี แม้ในสภาพเรือนจำที่ยากลำบากก็ต้องไม่ย่อท้อ เพราะ “ทุกการล้ม ย่อมมีการลุกขึ้นได้อีกครั้ง”
พระองค์ยังทรงชี้ให้เห็นว่า ความเมตตาสามารถเกิดขึ้นได้แม้ในที่คับแคบ หากเราสร้างพื้นที่แห่งความอ่อนโยน ความเคารพ ความเมตตา และการให้อภัย ดอกไม้แห่งความดีงามก็จะผลิบาน แม้ภายในกำแพงเรือนจำ ปีศักดิ์สิทธิ์นี้จึงเป็นการเรียกร้องให้กลับใจ และเป็นแหล่งแห่งความหวังและความยินดี
พระสันตะปาปาฟรานซิสได้เสนอให้มีการนิรโทษกรรม เพื่อให้ผู้คนกลับมามีความเชื่อมั่นในตนเองและสังคม พร้อมทั้งเน้นว่า ปาฏิหาริย์ส่วนใหญ่เกิดขึ้นผ่านความกรุณา ความใส่ใจ และปัญญาของมนุษย์ ทุกคนถูกเรียกให้สร้างสังคมแห่งคุณค่าความเมตตา
พระสันตะปาปาเลโอที่ 14 ยังทรงยอมรับความท้าทายของนักโทษและเจ้าหน้าที่เรือนจำ เช่น ความแออัด การขาดโอกาสทางการศึกษาและงาน รวมถึงบาดแผลในใจและอดีต แต่พระเจ้าทรงสัญญาว่า “ไม่มีใครถูกทอดทิ้ง”
ในบรรยากาศแห่งเทศกาลพระคริสตสมภพ พระสันตะปาปาได้เชิญชวนให้คริสตชนทุกคนร่วมสร้าง “ความฝันแห่งอาณาจักรพระเจ้า” แม้ในยามยากที่สุด โดยย้ำว่า “เรามิได้อยู่ลำพัง พระองค์ทรงอยู่ใกล้ และสิ่งงดงามจะเกิดขึ้นเสมอ”
พิธีกรรมครั้งนี้จึงเป็นทั้งการเฉลิมฉลองแห่งความชื่นชมยินดี และการตอกย้ำจิตตารมณ์ของปีศักดิ์สิทธิ์แห่งความหวัง ที่เชิญชวนให้คริสตชนทั่วโลกดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อ ความรัก และความหวังในพระคริสตเจ้า
แหล่งที่มา : https://www.facebook.com/share/p/1Aey1y8uuH/
