เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 2025 สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 ทรงเป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณเนื่องในโอกาสปีศักดิ์สิทธิ์แห่งชีวิตจิตของพระนางมารีย์ (Jubilee of Marian Spirituality) โดยทรงเทศน์สอนให้บรรดาผู้มีความเชื่อได้มองเห็นพระนางมารีย์พรหมจารีเป็นแบบอย่างอันงดงามของการกลับมาหาและติดตามพระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรของพระนาง
พระองค์ทรงตั้งพระทัยว่า “เปรียบเสมือนวันอาทิตย์ที่เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ด้วยรังสีแห่งการกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย จงระลึกถึงพระเยซูคริสต์” โดยเน้นว่าเรื่องนี้เท่านั้นที่สำคัญ และเป็นสิ่งที่ทำให้จิตวิญญาณของมนุษย์แตกต่างจากวิถีทางของพระเจ้า
พระสันตะปาปาทรงชี้ให้เห็นว่า ความศรัทธาต่อพระนางมารีย์นั้นเป็นประโยชน์ต่อพระวรสาร และช่วยให้เราดำเนินชีวิตตามพระวรสารได้อย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น โดยตรัสว่า “Marian spirituality is at the service of the Gospel: it reveals its simplicity”
ชีวิตจิตของพระนางมารีย์ (Marian Spirituality)
“ความรักที่เรามีต่อพระนางมารีย์แห่งนาซาเร็ธ นำเราไปสู่การร่วมเป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้าพร้อมกับพระนาง มันสอนให้เราหันกลับไปหาพระองค์ ใคร่ครวญและไตร่ตรองเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตของเรา ซึ่งองค์พระผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพยังคงเสด็จมาหาเราและทรงเรียกเรา”
จิตวิญญาณนี้ดึงดูดทุกคนให้เข้ามาสู่พระราชกิจแห่งความรอดของพระเจ้า “จิตวิญญาณแห่งพระนางมารีย์ทำให้เราจมดิ่งอยู่ในประวัติศาสตร์ที่สวรรค์เปิดออก”
“มันช่วยเราที่ได้เห็นคนหยิ่งจองหองกระจัดกระจายไปในความเย่อหยิ่งของพวกเขา คนมีอำนาจถูกขับไล่ลงจากบัลลังก์ และคนมั่งมีถูกส่งไปมือเปล่า มันผลักดันเราให้เติมเต็มผู้หิวโหยด้วยสิ่งดี ๆ ช่วยเหลือผู้ต่ำต้อย ระลึกถึงพระเมตตาของพระเจ้า และไว้วางใจในฤทธานุภาพแห่งพระหัถ์ของพระองค์”
บทสรรเสริญพระเจ้าของพระนางมารีย์ (Mary’s Magnificat)
พระสันตะปาปาทรงเน้นว่า “ใช่” ของพระนางมารีย์ไม่ใช่การกระทำเพียงครั้งเดียว แต่เป็นการอุทิศตนในทุกวัน “พระเยซูเจ้าทรงเชื้อเชิญให้เราเป็นส่วนหนึ่งของพระราชอาณาจักรของพระองค์ เช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงขอให้พระนางมารีย์ทรงตอบรับว่า ‘ใช่’ ซึ่งเมื่อทรงตอบรับแล้ว พระนางก็ทรงตอบรับใหม่ในทุกวัน”
จากพระวรสารเรื่องคนโรคเรื้อนสิบคน ซึ่งเก้าคนในนั้นไม่ได้กลับมาขอบพระคุณพระเจ้าหลังจากได้รับการรักษา พระองค์ทรงเตือนว่า “คนโรคเรื้อนในพระวรสารที่ไม่กลับมาขอบพระคุณ เตือนใจเราว่า พระคุณของพระเจ้าสามารถสัมผัสเราได้แต่ไม่พบคำตอบ มันสามารถรักษาเราได้ แต่เราก็ยังไม่สามารถยอมรับมันได้ ลักษณะที่ไม่นำเราไปสู่การติดตามพระเยซูเจ้า”
เงื่อนไข (A Caveat)
พระสันตะปาปาทรงเตือนว่า “การนมัสการบางรูปแบบไม่ได้ส่งเสริมการร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับผู้อื่น และอาจทำให้จิตใจเราเย็นชา ในกรณีเช่นนี้ เราไม่สามารถพบปะผู้คนที่พระเจ้าทรงประทานมาให้ในชีวิตของเรา เราไม่สามารถมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงโลก และแบ่งปันความชื่นยินดีในบทสรรเสริญพระเจ้าของพระนางมารีย์”
“ขอให้เราระมัดระวังที่จะหลีกเลี่ยงการแสวงหาผลประโยชน์จากความเชื่อใด ๆ ที่อาจนำไปสู่การตราหน้าผู้ที่แตกต่างจากเรา ซึ่งมักจะเป็นผู้ยากจนว่าเป็นศัตรู เป็น ‘คนโรคเรื้อน’ ที่ควรหลีกเลี่ยงและปฏิเสธ”
ติดตามพระเยซูเจ้าไปพร้อมกับพระนางมารีย์ (Following Christ with Mary)
“เส้นทางของพระนางมารีย์เดินตามรอยพระเยซูเจ้า ซึ่งนำเราไปสู่การพบปะกับมนุษย์ทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ยากจน ผู้บาดเจ็บ และคนบาป”
แบบอย่างแห่งความรักและความอ่อนโยน (Example of Love and Tenderness)
“ชีวิตจิตของพระนางมารีย์ที่แท้จริงนำไปสู่ความอ่อนโยนของพระเจ้า ซึ่งเป็นวิถีแห่ง ‘ความเป็นมารดา’ ของพระองค์ มาสู่พระศาสนจักร” ดังพระสมณสาส์น Evangelii Gaudium ที่กล่าวไว้ว่า “เมื่อใดก็ตามที่เรามองไปที่พระแม่มารีย์ เราจะกลับมามีความเชื่ออีกครั้งถึงธรรมชาติแห่งการปฏิวัติของความรักและความอ่อนโยน”
“ในตัวของพระแม่มารีย์เราเห็นว่า ความอ่อนน้อมถ่อมตนและความอ่อนโยนไม่ใช่คุณธรรมของผู้ที่อ่อนแอ แต่เป็นคุณธรรมของผู้ที่แข็งแกร่ง ซึ่งไม่จำเป็นต้องปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างไม่ดี เพื่อที่จะรู้สึกว่าตนเองมีความสำคัญ”
หนทางสู่การเปลี่ยนแปลงและการฟื้นฟูทางสังคม (A Path Toward Social Transformation and Renewal)
“เมื่อพิจารณาถึงพระนางมารีย์ เราตระหนักว่า พระนางผู้ทรงสรรเสริญพระเจ้าที่ ‘ทรงนำผู้มีอำนาจลงจากบัลลังก์’ และ ‘ทรงส่งคนมั่งมีกลับไปมือเปล่า’ ทรงเป็นผู้ทรงนำครอบครัวที่อบอุ่นมาสู่การแสวงหาความยุติธรรมของเรา”
“ในโลกที่แสวงหาความยุติธรรมและสันติภาพ ขอให้เราฟื้นฟูจิตวิญญาณคริสตชน และความเชื่อของประชาชนต่อเหตุการณ์และสถานที่ต่าง ๆ ที่พระเจ้าทรงอวยพร ซึ่งได้เปลี่ยนโฉมหน้าของโลกไปตลอดกาล ขอให้เราใช้สิ่งเหล่านี้เป็นแรงผลักดันสู่การฟื้นฟูและการเปลี่ยนแปลง”
“ปีศักดิ์สิทธิ์แห่งชีวิตจิตของพระนางมารีย์ เรียกร้องเวลาแห่งการเปลี่ยนใจเลื่อมใสและการกลับคืนสู่สภาพเดิม เป็นเวลาแห่งการไตร่ตรองและการปลดปล่อย”
มอบความไว้วางใจของเราแด่พระนางมารีย์ (Entrusting Ourselves to Mary)
“ขอพระแม่มารีย์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ผู้ทรงเป็นความหวังของเรา โปรดเสนอวิงวอนเพื่อเรา และทรงนำเราไปหาพระเยซูเจ้า พระเจ้าผู้ถูกตรึงกางเขน ในพระองค์นั้น มีความรอดพ้นสำหรับทุกคน”
พิธีบูชาขอบพระคุณครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองปีศักดิ์สิทธิ์แห่งชีวิตจิตของพระนางมารีย์ ซึ่งเชิญชวนคริสตชนทั่วโลกให้กลับคืนสู่จิตตารมณ์แห่งการติดตามพระคริสตเจ้า ด้วยความรัก ความอ่อนโยน และความหวังในพระเมตตาของพระเจ้า
แหล่งที่มา : https://www.facebook.com/share/p/16ydcrypjs/