สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 ทรงเทศน์สอนในพิธีบูชาขอบพระคุณโอกาสปีศักดิ์สิทธิ์แห่งชีวิตจิตของพระนางมารีย์ (Jubilee of Marian Spirituality) ณ นครรัฐวาติกัน

เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 2025 สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 ทรงเป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณเนื่องในโอกาสปีศักดิ์สิทธิ์แห่งชีวิตจิตของพระนางมารีย์ (Jubilee of Marian Spirituality) โดยทรงเทศน์สอนให้บรรดาผู้มีความเชื่อได้มองเห็นพระนางมารีย์พรหมจารีเป็นแบบอย่างอันงดงามของการกลับมาหาและติดตามพระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรของพระนาง พระองค์ทรงตั้งพระทัยว่า “เปรียบเสมือนวันอาทิตย์ที่เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ด้วยรังสีแห่งการกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย จงระลึกถึงพระเยซูคริสต์” โดยเน้นว่าเรื่องนี้เท่านั้นที่สำคัญ และเป็นสิ่งที่ทำให้จิตวิญญาณของมนุษย์แตกต่างจากวิถีทางของพระเจ้า พระสันตะปาปาทรงชี้ให้เห็นว่า ความศรัทธาต่อพระนางมารีย์นั้นเป็นประโยชน์ต่อพระวรสาร และช่วยให้เราดำเนินชีวิตตามพระวรสารได้อย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น โดยตรัสว่า “Marian spirituality is at the service of the Gospel: it reveals its simplicity” ชีวิตจิตของพระนางมารีย์ (Marian Spirituality)“ความรักที่เรามีต่อพระนางมารีย์แห่งนาซาเร็ธ นำเราไปสู่การร่วมเป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้าพร้อมกับพระนาง มันสอนให้เราหันกลับไปหาพระองค์ ใคร่ครวญและไตร่ตรองเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตของเรา ซึ่งองค์พระผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพยังคงเสด็จมาหาเราและทรงเรียกเรา” จิตวิญญาณนี้ดึงดูดทุกคนให้เข้ามาสู่พระราชกิจแห่งความรอดของพระเจ้า “จิตวิญญาณแห่งพระนางมารีย์ทำให้เราจมดิ่งอยู่ในประวัติศาสตร์ที่สวรรค์เปิดออก” “มันช่วยเราที่ได้เห็นคนหยิ่งจองหองกระจัดกระจายไปในความเย่อหยิ่งของพวกเขา คนมีอำนาจถูกขับไล่ลงจากบัลลังก์ และคนมั่งมีถูกส่งไปมือเปล่า มันผลักดันเราให้เติมเต็มผู้หิวโหยด้วยสิ่งดี ๆ ช่วยเหลือผู้ต่ำต้อย ระลึกถึงพระเมตตาของพระเจ้า และไว้วางใจในฤทธานุภาพแห่งพระหัถ์ของพระองค์” […]
การแสวงบุญโอกาสปีศักดิ์สิทธิ์เพื่อครูคำสอน (Jubilee for Catechists) ระหว่างวันที่ 21–30 กันยายน ค.ศ. 2025

ในวาระปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 พระศาสนจักรสากลได้จัดกิจกรรมแสวงบุญสำหรับครูคำสอนจากหลากหลายประเทศทั่วโลก ภายใต้ชื่อ Jubilee for Catechists เพื่อเสริมสร้างจิตตารมณ์แห่งการประกาศพระวาจา และยืนยันบทบาทของครูคำสอนในพันธกิจของพระศาสนจักร กิจกรรมแสวงบุญครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21–30 กันยายน ค.ศ. 2025 โดยมีการเยี่ยมเยียนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำคัญในประเทศอิตาลี ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับชีวิตนักบุญ การประกาศพระวรสาร และการฟื้นฟูชีวิตฝ่ายจิตของครูคำสอน สถานที่สำคัญที่คณะผู้แสวงบุญได้เดินทางไปเยือน ได้แก่ การแสวงบุญครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเยี่ยมเยียนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่ยังเป็นโอกาสในการภาวนา ร่วมพิธีกรรม และแลกเปลี่ยนประสบการณ์แห่งความเชื่อระหว่างครูคำสอนจากหลากหลายวัฒนธรรม เพื่อเสริมสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันในพันธกิจการประกาศข่าวดี การแสวงบุญโอกาสปีศักดิ์สิทธิ์เพื่อครูคำสอน (Jubilee for Catechists) เป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 ที่มุ่งเน้นการฟื้นฟูชีวิตฝ่ายจิตของครูคำสอน และการตอกย้ำบทบาทของพวกเขาในฐานะผู้สื่อสารพระวาจาแห่งพระเจ้าอย่างมั่นคงและเปี่ยมด้วยความรักในพระคริสตเจ้า แหล่งที่มา : https://www.facebook.com/share/p/19k8HsBzGT/https://www.facebook.com/share/p/1B1vUnkHCa/https://www.facebook.com/share/p/16CS5hJaSS/https://www.facebook.com/share/p/17DMMt8Coj/https://www.facebook.com/share/p/19rH2bcR1v/
บทเทศน์ของสมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 โอกาสปีศักดิ์สิทธิ์เพื่อครูคำสอน (Jubilee for Catechists) วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน ค.ศ. 2025 ณ จัตุรัสนักบุญเปโตร นครรัฐวาติกัน

พี่น้องที่เคารพรัก พระวาจาของพระเยซูเจ้าถ่ายทอดให้เราเห็นว่า พระเจ้าทรงมองโลกอย่างไร ในทุกขณะและทุกสถานที่ เราได้ยินในพระวรสาร (ลูกา 16:19–31) ว่าพระเนตรของพระองค์ทอดพระเนตรเห็นผู้ยากจนและผู้ร่ำรวย เห็นคนหนึ่งกำลังจะตายด้วยความหิวโหย และอีกคนหนึ่งกำลังกินอิ่มหนำสำราญอยู่ตรงหน้า เห็นคนหนึ่งสวมเสื้อผ้าหรูหรา และอีกคนหนึ่งถูกสุนัขเลียแผล (เทียบ ลูกา 16:19–21) แต่พระเจ้าทรงทอดพระเนตรจิตใจของผู้คน และผ่านทางพระเนตรของพระองค์ เรายังสามารถมองเห็นทั้งผู้ยากจนและผู้ที่เย็นชา ลาซารัสถูกลืมโดยคนที่อยู่ตรงหน้าเขา ตรงหน้าประตูบ้านของเขา แต่พระเจ้าทรงอยู่ใกล้เขาและทรงระลึกถึงชื่อของเขา พระเจ้าทรงจดจำชื่อของผู้ที่มีผู้อื่นในจิตใจ ในทางกลับกัน คนที่มีชีวิตอย่างมั่งคั่งกลับไม่มีชื่อ เพราะเขาหลงลืมตัวเองไปเพราะลืมเพื่อนบ้าน เขาหลงอยู่ในความคิด ในใจของเขาเต็มไปด้วยสิ่งของและว่างเปล่าจากความรัก ทรัพย์สมบัติของเขาไม่ได้ทำให้เขาเป็นคนดี เรื่องราวที่พระเยซูเจ้าทรงเล่าให้เราฟังนั้น น่าเสียดายที่ยังคงมีความสำคัญอย่างยิ่งในปัจจุบัน ณ เบื้องหน้าของความมั่งคั่ง คือความทุกข์ยากของชนชาติทั้งมวลที่ถูกทำลายด้วยสงครามและการเอารัดเอาเปรียบ ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป มีลาซารัสกี่คนที่ต้องตายเพราะความโลภที่ลืมความยุติธรรม กำไรที่เหยียบย่ำความรัก และความมั่งคั่งของผู้ที่มองไม่เห็นความทุกข์ของผู้ยากจน พระเจ้าประทานความยุติธรรมแก่ผู้ยากจนและผู้ร่ำรวย กระนั้นก็ดี พระวรสารยืนยันกับเราว่า ความทุกข์ทรมานของลาซารัสจะสิ้นสุดลง ความเจ็บปวดของเขาสิ้นสุดลงเช่นเดียวกับที่ความสนุกสนานของผู้ร่ำรวยสิ้นสุดลง และพระเจ้าทรงให้ความยุติธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย “ผู้ยากจนนั้นตาย และทูตสวรรค์ได้นำพาเขามาอยู่ข้างอับราฮัม ผู้ร่ำรวยนั้นก็ตายและถูกฝัง” ด้วยเช่นเดียวกัน (ลก 16:22) พระศาสนจักรประกาศพระวาจาของพระเจ้านี้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อที่จะได้เปลี่ยนใจเรา พี่น้องที่รัก ด้วยความบังเอิญอันน่าทึ่งที่ข้อความจากพระวรสารตอนเดียวกันนี้ ได้รับการประกาศในช่วงปีศักดิ์สิทธิ์เพื่อครูคำสอนในปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมที่ผ่านมาด้วยเช่นเดียวกัน […]
สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 ทรงเน้นบทบาทความเชื่อของประชากรธรรมดาในการนำทางพระศาสนจักร ในโอกาสปีศักดิ์สิทธิ์เพื่อครูคำสอน (Jubilee of Catechists) วันที่ 26–28 กันยายน ค.ศ. 2025

เมื่อวันเสาร์ที่ 29 กันยายน ค.ศ. 2025 สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 ทรงจัดพิธีเข้าเฝ้าพิเศษ ณ จัตุรัสนักบุญเปโตร กรุงโรม สำหรับบรรดาครูคำสอนจากทั่วโลกหลายพันคนที่มาร่วมกิจกรรมปีศักดิ์สิทธิ์เพื่อครูคำสอน (Jubilee of Catechists) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26–28 กันยายน ค.ศ. 2025 ในการเทศน์สอน พระสันตะปาปาทรงเน้นว่า “ความสำนึกในความเชื่อ” (sensus fidei) หรือความเชื่อของประชากรธรรมดาสามัญต่อสิ่งต่าง ๆ ของพระเจ้า เป็นพลังสำคัญที่ขับเคลื่อนพระศาสนจักรไปสู่เส้นทางใหม่ โดยตรัสว่า “พระเจ้าทรงเรียบง่ายและทรงแสดงพระองค์แก่คนธรรมดาสามัญ ด้วยเหตุนี้ ความเชื่อของประชากรของพระเจ้าจึงไม่มีความผิดพลาด ซึ่งการไม่ผิดพลาดของพระสันตะปาปาเป็นการแสดงออกและการรับใช้” แบบอย่างของนักบุญอัมโบรส พระสันตะปาปาทรงยกตัวอย่างนักบุญอัมโบรสในศตวรรษที่ 4 ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการเมืองมิลานในช่วงเวลาที่เกิดความขัดแย้งในพระศาสนจักร ท่านได้ใช้ความสามารถในการรับฟังและไกล่เกลี่ยเพื่อสร้างความสงบสุขแก่สัตบุรุษ และได้รับการเรียกให้เป็นพระสังฆราชแม้ยังไม่ได้รับศีลล้างบาป โดยประชาชนมองเห็นคุณธรรมลึกซึ้งในตัวท่าน พระสันตะปาปาทรงกล่าวว่า “พระศาสนจักรได้รับพระสังฆราชผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดองค์หนึ่งจากของขวัญอันยิ่งใหญ่ที่คนตัวเล็กมอบให้” และทรงเน้นว่า “การรับรู้ การหยั่งรู้ คือหนทางแห่งความหวัง” เราเป็นคริสตชนอย่างแท้จริงหรือไม่? พระสันตะปาปาทรงเชิญชวนให้คริสตชนทุกคนดำเนินชีวิตตามกระแสเรียกที่ได้รับ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ผู้ประกอบการ คนงาน ครูบาอาจารย์ พระสงฆ์ หรือนักบวช […]
กิจกรรมปีศักดิ์สิทธิ์เพื่อครูคำสอน (Jubilee of Catechists) ณ นครรัฐวาติกัน วันที่ 26–28 กันยายน ค.ศ. 2025

กิจกรรมปีศักดิ์สิทธิ์เพื่อครูคำสอน (Jubilee of Catechists) ณ นครรัฐวาติกัน วันที่ 26–28 กันยายน ค.ศ. 2025เนื่องในโอกาสปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 พระศาสนจักรสากลจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองสำหรับครูคำสอนทั่วโลก ภายใต้ชื่อ “ปีศักดิ์สิทธิ์เพื่อครูคำสอน” (Jubilee of Catechists) เพื่อยกย่องพันธกิจการประกาศพระวาจาและการอบรมความเชื่อของครูคำสอนในทุกระดับ กำหนดการกิจกรรม วันศุกร์ที่ 26 กันยายน 2025 วันเสาร์ที่ 27 กันยายน 2025 วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน 2025 พร้อมพิธีแต่งตั้งครูคำสอนใหม่กิจกรรมครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญในการฟื้นฟูจิตตารมณ์ของผู้ประกาศพระวาจา เสริมสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันในพันธกิจของครูคำสอน และร่วมรับพระคุณการุณย์ในวาระแห่งพระหรรษทานของปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาจากทั่วโลกเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อร่วมเป็นพยานแห่งความเชื่อและความหวังในพระคริสตเจ้า แหล่งที่มา : https://www.facebook.com/share/p/16GnJxoCFJ/
พระสันตะปาปาเลโอที่ 14 ทรงเทศน์สอนในโอกาสปีศักดิ์สิทธิ์เพื่อความยุติธรรม ค.ศ. 2025 “ความยุติธรรมต้องถูกนำด้วยปรีชาญาณ ความรัก และความเมตตา”

เมื่อวันเสาร์ที่ 20 กันยายน ค.ศ. 2025 เนื่องในโอกาสปีศักดิ์สิทธิ์เพื่อความยุติธรรม (Jubilee of Justice) สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 ทรงเทศน์สอนต่อผู้เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายบ้านเมืองจำนวนมาก โดยทรงเน้นย้ำถึงบทบาทของความยุติธรรมในฐานะคุณธรรมสำคัญที่ต้องดำเนินควบคู่กับปรีชาญาณ ความรัก และความเมตตา พระองค์ทรงเชิญชวนทุกคนให้ “แสดงออกถึงการใช้ความยุติธรรมอย่างเต็มที่ในการรับใช้ประชาชน ด้วยสายตาที่จดจ่ออยู่ที่พระเจ้า” พร้อมกับชี้ให้เห็นว่า ความยุติธรรมเป็นสิ่งจำเป็นทั้งในด้านการพัฒนาสังคมอย่างมีระเบียบ และในฐานะคุณธรรมที่ชี้นำมโนธรรมของมนุษย์ทุกคน จากพระคัมภีร์ที่กล่าวว่า “จงรักความยุติธรรมและหลีกเลี่ยงความชั่ว” และคำจำกัดความดั้งเดิมของความยุติธรรมว่า “การตอบแทนสิ่งที่แต่ละคนพึงได้รับ” พระองค์ทรงชี้ว่า แม้รูปแบบความยุติธรรมนี้จะมีคุณค่า แต่ก็ยังไม่สามารถตอบสนองความปรารถนาอันลึกซึ้งในตัวบุคคลได้อย่างแท้จริง ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และความดีส่วนรวม พระสันตะปาปาทรงอธิบายว่า ความยุติธรรมคือการผสมผสานระหว่างศักดิ์ศรีของบุคคล ความสัมพันธ์ระหว่างกัน และมิติแห่งการอยู่ร่วมกันของชุมชน เข้ากับโครงสร้างและกฎเกณฑ์ร่วมกัน โดยเป็นคุณธรรมที่ควบคุมความประพฤติของเราด้วยเหตุผลและความเชื่อ พร้อมด้วยความตั้งใจแน่วแน่ที่จะตอบแทนสิ่งที่ควรได้รับแก่พระเจ้าและทุกคนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เหนือกว่า พระองค์ทรงกล่าวถึง “ความยุติธรรมที่เหนือกว่า” ตามพระวรสาร ซึ่งเน้นให้ความเมตตาเป็นกุญแจสำคัญในการตีความความสัมพันธ์ และผลักดันให้เกิดการให้อภัย โดยทรงชี้ว่า “พลังแห่งการให้อภัย” เป็นแก่นแท้ของบัญญัติแห่งความรัก และเป็นองค์ประกอบสำคัญของความยุติธรรมที่เชื่อมโยงสิ่งเหนือธรรมชาติเข้ากับมนุษย์ ความยุติธรรมในการประกาศพระวรสารไม่ได้ละทิ้งความยุติธรรมของมนุษย์ แต่ตั้งคำถามและปรับเปลี่ยนความหมายใหม่ เพื่อผลักดันให้เกิดการคืนดีระหว่างกัน ไม่ใช่เพียงการลงโทษความชั่วร้าย แต่รวมถึงการแก้ไขด้วย ซึ่งเป็นภารกิจที่ท้าทาย แต่เป็นไปได้สำหรับผู้ที่อุทิศตนให้กับวิถีชีวิตที่ไร้ที่ติ ความเท่าเทียมและการเข้าถึงความยุติธรรม พระสันตะปาปาทรงเตือนถึงการเลือกปฏิบัติที่เพิ่มมากขึ้น […]
ปีศักดิ์สิทธิ์ของผู้ร่วมงานการสมัชชาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (Jubilee of Synodal Teams & Participatory Bodies) ระหว่างวันที่ 24–26 ตุลาคม ค.ศ. 2025

ขอเชิญผู้ร่วมงานการสมัชชาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกิจกรรมเฉลิมฉลองปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 สำหรับคณะทำงานสมัชชาและองค์กรที่มีส่วนร่วมในพันธกิจของพระศาสนจักร กิจกรรมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24–26 ตุลาคม ค.ศ. 2025 โดยมีรายละเอียดดังนี้ วันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม 2025 วันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม 2025 วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2025 กิจกรรมครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญในการเสริมสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันในพระศาสนจักร ผ่านการพบปะ แลกเปลี่ยน และร่วมภาวนาในจิตตารมณ์แห่งการเดินไปด้วยกัน (Synodality) ในวาระปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 แหล่งที่มา : https://www.facebook.com/share/17ELZ5gpQk/
สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 ทรงตอบคำถามเยาวชนในพิธีฉลองปีศักดิ์สิทธิ์เพื่อเยาวชน ณ ตอร์ แวร์กาตา กรุงโรม

เมื่อเย็นวันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 2025 เยาวชนกว่า 1 ล้านคนจากทั่วโลกได้รวมตัวกัน ณ ลานมหาวิทยาลัยตอร์ แวร์กาตา ชานเมืองกรุงโรม เพื่อร่วมพิธีฉลองปีศักดิ์สิทธิ์เพื่อเยาวชน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม Jubilee of Youth ในวาระปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 ภายในงานมีการจัดพิธีอธิษฐานภาวนาโดยสมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 ทรงเป็นผู้นำ พร้อมด้วยการขับร้อง การอ่านพระคัมภีร์ และการนมัสการศีลมหาสนิท โดยมีช่วงสำคัญคือการถาม-ตอบระหว่างพระสันตะปาปากับตัวแทนเยาวชน 3 คน ซึ่งตั้งคำถามใน 3 หัวข้อหลัก ได้แก่ มิตรภาพ การเลือกใช้ชีวิต และการพบปะกับพระเยซูเจ้า คำถามแรกโดย “ดูลเช มารีอา” วัย 23 ปี จากประเทศเม็กซิโก เธอตั้งคำถามเกี่ยวกับธรรมชาติของการเชื่อมต่อออนไลน์ที่มัก “ชั่วคราวและลวงตา” และถามว่าเราจะค้นพบมิตรภาพและความรักแท้ที่นำไปสู่ความหวังได้อย่างไร พระสันตะปาปาทรงตอบว่า แม้โซเชียลมีเดียจะเป็นโอกาสพิเศษในการสนทนา แต่ก็อาจกล่อมเกลาให้เราหลงติดในลัทธิบริโภคนิยม มิตรภาพที่แท้จริงจะยั่งยืนได้ก็ต่อเมื่อตั้งอยู่บนพื้นฐานของพระเจ้า โดยทรงอ้างคำสอนของนักบุญออกัสตินว่า “ผู้ที่รักพระเจ้าในเพื่อนของเขา คือผู้ที่รักเพื่อนของเขาอย่างแท้จริง” คำถามที่สองโดย “ไกอา” […]
พระเจ้ากำลังเคาะที่หน้าต่างแห่งจิตวิญญาณของเรา (Pope at Youth Mass: The Lord is gently knocking at the window of your soul)

สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 ทรงเป็นประธานพิธีบูชาขอบพระคุณโอกาสปีศักดิ์สิทธิ์เพื่อเยาวชน ณ ตอร์ แวร์กาตา กรุงโรม ทรงเป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณเนื่องในโอกาสปีศักดิ์สิทธิ์เพื่อเยาวชน ณ ลานมหาวิทยาลัยตอร์ แวร์กาตา โดยมีเยาวชนจากนานาประเทศเข้าร่วมอย่างเนืองแน่น ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความศรัทธา ความหวัง และความชื่นชมยินดีในพระเจ้า ในการเทศน์สอนระหว่างพิธี สมเด็จพระสันตะปาปาทรงเน้นย้ำถึงพระเยซูเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพว่าเป็น “ความหวังของเรา” และทรงเชิญชวนเยาวชนให้ “ร่วมผจญภัยกับพระเจ้าเพื่อชีวิตนิรันดร” โดยทรงเปรียบเปรยอย่างลึกซึ้งว่า “พระเจ้ากำลังเคาะเบา ๆ ที่หน้าต่างแห่งจิตวิญญาณของเรา” เพื่อให้เราตอบรับพระองค์ด้วยใจเปิดกว้าง การไตร่ตรองผ่านพระคัมภีร์และประสบการณ์ชีวิตแม้บทอ่านในพิธีกรรมจะมิได้กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวโดยตรง พระองค์ทรงชี้ว่า บทอ่านจากหนังสือปัญญาจารย์เชื้อเชิญให้เรายอมรับข้อจำกัดของชีวิต และธรรมชาติอันเลื่อนลอยของสรรพสิ่งที่ผ่านไป พร้อมกับเตือนใจว่า “เราไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อชีวิตที่หยุดนิ่ง แต่เพื่อการดำรงอยู่ที่ได้รับการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องผ่านการมอบตนเองด้วยความรัก” พระองค์ทรงเตือนเยาวชนมิให้หลอกลวงตนเองด้วยของเลียนแบบราคาถูก แต่ให้เปลี่ยนความกระหายภายในใจให้เป็นขั้นบันไดสู่การเผชิญหน้ากับพระเจ้า “เหมือนเด็ก ๆ ที่ยืนเขย่งเท้าเพื่อมองผ่านหน้าต่างแห่งการเผชิญหน้ากับพระเจ้า เมื่อนั้น เราจะพบว่าตัวเราเองอยู่เบื้องพระพักตร์พระองค์ ผู้ทรงรอเราอยู่” ปรีชาญาณของนักบุญออกัสติน: ความหวังที่แท้จริงพระสันตะปาปาทรงอ้างถึงนักบุญออกัสติน ผู้ทรงครุ่นคิดอย่างลึกซึ้งถึงการแสวงหาพระเจ้า โดยตั้งคำถามว่า “เป้าหมายแห่งความหวังของเราคืออะไร?” และทรงตอบว่า “ไม่ใช่โลกหรือสิ่งสวยงามที่มาจากโลก แต่เป็นผู้สร้างโลก — พระองค์คือความหวังของคุณ” พระองค์ทรงย้ำว่า ความหวังที่แท้จริงมิได้อยู่ภายนอก แต่ภายในจิตใจของเราเอง “พระเจ้าทรงสถิตอยู่ภายในข้าพเจ้า แต่ข้าพเจ้าอยู่ภายนอก […]
เสียงของพวกคุณจะถูกได้ยินไปถึงสุดปลายแผ่นดิน (Pope to young pilgrims: “Your voices will be heard to the ends of the earth”)

สำนักวาติกันจัดพิธีเปิดปีศักดิ์สิทธิ์สำหรับเยาวชน (Jubilee of Youth) ขึ้นอย่างเป็นทางการในเย็นวันอังคารที่ 29 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ณ จัตุรัสนักบุญเปโตร นครรัฐวาติกัน โดยมีพระอัครสังฆราช รีโน ฟิสิเคลลา สมณมนตรีแห่งสมณสภาเพื่อการประกาศพระวรสาร เป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณ และสมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 ทรงเสด็จมาร่วมกล่าวต้อนรับบรรดานักแสวงบุญรุ่นเยาว์ ภายหลังพิธีบูชาขอบพระคุณ พระสันตะปาปาทรงกล่าวแก่เยาวชนด้วยความรักและความหวัง โดยเชิญชวนให้ร่วมอธิษฐานภาวนาเพื่อสันติภาพ พร้อมกับเน้นย้ำถึงบทบาทของเยาวชนในฐานะ “เกลือและแสงสว่างของโลก” และผู้เป็น “สารแห่งความหวัง” ที่โลกกำลังเฝ้ารอ พระองค์ตรัสว่า “วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางอีกไม่กี่วัน ในปีศักดิ์สิทธิ์แห่งความหวัง และโลกต้องการสารแห่งความหวัง พวกท่านคือสารนั้น และพวกท่านต้องนำความหวังไปสู่ทุกคนต่อไป” “ขอให้เราอธิษฐานภาวนาเพื่อสันติภาพ และขอให้เราเป็นพยานถึงสันติภาพของพระเยซูคริสตเจ้า พระเจ้าแห่งการคืนดี และแสงสว่างแห่งโลกที่เราทุกคนกำลังแสวงหา” พระสันตะปาปาทรงอวยพรให้บรรดาเยาวชนมีสัปดาห์แห่งพระพรในกรุงโรม และเชิญชวนให้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งในวันที่ 2 และ 3 สิงหาคม ค.ศ. 2025 เพื่อร่วมพิธีตื่นเฝ้า และพิธีบูชาขอบพระคุณ ณ ลานมหาวิทยาลัย ตอร์ แวร์กาตา (Tor Vergata) กรุงโรม […]